3 ขุนศึกแห่งเดธเมทัลรวมพลังอีกครั้ง MALEFIC THRONE ประกาศอัลบั้มเปิดตัว The Conquering Darkness เตรียมวางแผงพฤศจิกายนนี้
3 ขุนศึกแห่งเดธเมทัลรวมพลังอีกครั้ง MALEFIC THRONE ประกาศอัลบั้มเปิดตัว The Conquering Darkness เตรียมวางแผงพฤศจิกายนนี้
.
3 ขุนศึกผู้เคยยืนแนวหน้าในสมรภูมิเดธเมทัลระดับตำนานกลับมารวมพลังอีกครั้งในนาม MALEFIC THRONE วงซูเปอร์กรุ๊ปสายเดธเมทัลที่ประกอบด้วย Gene Palubicki จาก ANGELCORPSE และ PERDITION TEMPLE, Steve Tucker จาก MORBID ANGEL และ John Longstreth จาก ORIGIN, HATE ETERNAL และอดีตสมาชิก ANGELCORPSE โดยพวกเขาเตรียมเปิดตัวอัลบั้มแรกชื่อ The Conquering Darkness ซึ่งจะวางจำหน่ายวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้สังกัด Agonia Records
.
การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการหวนคืนของ 3 บุคคลผู้มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างรากฐานแห่งเดธเมทัลในยุค 90s ทั้ง 3 เคยพบกันครั้งแรกเมื่อปี 1997 ที่สตูดิโอ Morrisound ในช่วงที่ MORBID ANGEL และ ANGELCORPSE ต่างกำลังบันทึกเสียงอัลบั้มของตน Palubicki เล่าถึงที่มาว่าแนวคิดของวงเกิดขึ้นในปี 2020 จากความตั้งใจที่จะรื้อฟื้นพลังและจิตวิญญาณแห่งเดธเมทัลยุคเก่ากลับมาในรูปแบบใหม่ที่ดิบกว่า หนักกว่า และซับซ้อนยิ่งขึ้น เขาอธิบายว่า “MALEFIC THRONE ไม่ใช่เพียงการรวมชื่อใหญ่จาก 3 วง แต่คือการหลอมรวมเอกลักษณ์ของแต่ละคนให้เป็นสิ่งใหม่ที่มีพลังและทิศทางชัดเจน”
.
ด้านมือกลอง John Longstreth กล่าวถึงการกลับมาทำงานร่วมกันว่า “เรารู้จักกันมานานกว่า 2 ทศวรรษ และตอนนี้สิ่งที่เราเคยคุยกันในวันนั้นได้กลายเป็นความจริง มันคือการเฉลิมฉลองเดธเมทัลในแบบที่เรารัก เร็ว ดิบ และหนักหน่วงสุดขีด” ขณะที่ Palubicki ยืนยันว่าการทำงานของวงเต็มไปด้วยเคมีที่เข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์คือซาวด์ที่สะท้อนจิตวิญญาณของทั้ง 3 คนได้ครบถ้วน ทั้งความโหดในแนวทางของ ANGELCORPSE พลังปีศาจแบบ MORBID ANGEL และเทคนิคอันเฉียบคมในสไตล์ ORIGIN
.
อัลบั้ม The Conquering Darkness ผ่านการบันทึกเสียง มิกซ์ และมาสเตอร์โดย Colin Marston ที่สตูดิโอ Menegroth The Thousand Caves ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานของ GORGUTS, ATHEIST และ ORIGIN มาก่อน เสียงที่ได้จึงเปี่ยมไปด้วยพลังและความหนักแน่นแบบ infernal nuclear death metal ตามคำบรรยายของ Longstreth ส่วนงานศิลปะปกอัลบั้มเป็นฝีมือของ Daniele Valeriani ผู้เคยฝากผลงานไว้กับ DARK FUNERAL และ MAYHEM ขณะที่โลโก้วงออกแบบโดย Christophe Szpajdel นักออกแบบโลโก้ระดับตำนานที่อยู่เบื้องหลังโลโก้ของ EMPEROR และ MOONSPELL
.
สำหรับรายชื่อเพลงในอัลบั้มนี้ประกอบด้วย 8 บทเพลงที่สื่อถึงความมืด ความตาย และการต่อสู้ในนามแห่งอสูร ได้แก่ Blasphémait Desecration, The Voice Of My Ghost, Athirst For Dissonance, Born Of Plague, Divine Tragedy, Carnage Of The Forgotten, When Our Shadows Align และ Forged In Stone ซึ่งแต่ละเพลงถูกออกแบบให้สะท้อนความร่วมมือของทั้ง 3 สมาชิกในทุกจังหวะและทุกริฟฟ์
.
Palubicki เคยให้สัมภาษณ์กับ Bardo Methodology ว่าแนวทางของ MALEFIC THRONE ไม่ได้ตั้งอยู่บนการทำให้เหมือนวงเดิมของใคร แต่คือการสร้างกรอบใหม่ที่เปิดพื้นที่ให้เอกลักษณ์ของทุกคนได้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นธรรมชาติ “ผมพยายามสร้างเพลงที่มีจังหวะและโครงสร้างสอดคล้องกับประสบการณ์ของพวกเขา มันไม่ใช่แค่การเอาเสียงของผมไปผสมกับ MORBID ANGEL หรือ ORIGIN แต่มันคือการสร้างสิ่งที่เป็นเรา 3 คน ในฐานะวงเดียวกัน” เขากล่าว
.
MALEFIC THRONE จึงเป็นดั่งการหลอมรวมจิตวิญญาณเดธเมทัลที่แท้จริงในยุคปัจจุบัน The Conquering Darkness ถูกมองว่าเป็นการประกาศสงครามแห่งเสียงโลหะสายพันธุ์เก่าที่กลับมาพร้อมพลังใหม่อย่างเต็มรูปแบบ การรวมตัวของ Palubicki, Tucker และ Longstreth ครั้งนี้จึงน่าจะกลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของวงการเดธเมทัลปลายปี 2025
.
#MaleficThrone #MorbidAngel #Angelcorpse #Origin #TheConqueringDarkness #DeathMetal #AgoniaRecords #TerritoryMag




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น